“การคุมกำเนิด” กับความเชื่อแบบผิดๆที่ไม่ควรทำเป็นอย่างยิ่ง
Posted On ช่วงอายุที่มีเพศสัมพันธ์มากที่สุดก็คือช่วงเวลาวัยรุ่นซึ่งทำให้มีปัญหาท้องในสภาวะไม่พร้อมเป็นจำนวนมากซึ่งมีสาเหตุมาจากการขาดความรู้ความเข้าใจใน การคุมกำเนิด และความไม่เข้าใจวิธีคุมกำเนิดที่ถูกต้องจึงทำให้ ไม่สามารถคุมกำเนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากท่านที่ไม่พร้อมที่จะตั้งครรภ์ใครไม่ว่าจะเป็นวัยรุ่นหรือคนในช่วงอายุทั่วไปยังไม่พร้อมจะมีบุตรขอแนะนำว่าให้เลิกใช้วิธีคุมกำเนิดที่มีความเชื่อที่ผิดๆแบบนี้
ความเชื่อแบบผิดๆเกี่ยวกับ “การคุมกำเนิด”
วิธีหลั่งน้ำเชื้อข้างนอก อั้นสเปิร์ม
การหลั่งน้ำเชื้อข้างนอกช่องคลอดนั้นเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากในหมู่มือรุ่นพระสะดวกทำได้ทุกครั้งเมื่อต้องการแต่การกลั้นไม่ให้น้ำเชื้อหรือสเปิร์มเข้าไปในช่องคลอดนั้นไม่สามารถการันตีได้ว่าจะสามารถกลั้นได้หมดเพราะในบางคราวน้ำเชื้อหรืออสุจิบางตัวก็สามารถออกไปในขณะมีเพศสัมพันธ์แล้วฉะนั้นแล้วการหลั่ง น้ำเชื้ออสุจิให้หลั่งนอกช่องคลอดจึงเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ควรทำเพราะว่ามีปฏิสนธิภาพต่ำมากอีกทั้งยังเป็นวิธีที่เสี่ยงต่อการติดโรคทางเพศสัมพันธ์อีกด้วย
สวนล้างช่องคลอดด้วยการฉีดน้ำเข้าไป
สิ่งที่ไม่ควรทำคือการล้างช่องคลอด นั่นก็คือการใช้วิธีน้ำฉีดสวนเข้าไปในช่องคลอดเพื่อล้างคราบน้ำเชื้อออกมา ซึ่งเป็นวิธีคุมกำเนิดที่ไม่ ไม่ควรทำและอันตรายมากเพราะจะทำให้ได้รับการบาดเจ็บแล้วอาจจะทำให้ติดเชื้ออีกทั้งยังทำให้สภาวะภายในช่องคลอดเปลี่ยนไปไม่ว่าจะเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ดีหมดไปและทำให้เนื้อเยื่อภายในช่องที่บอบบางถลอกและเลือดไหลออกมาและเสียสมดุลความแนกรด-ด่างในช่องคลอดที่จะต้องมีสภาวะเป็นด่างจึงเป็นวิธีที่ไม่ควรทำอย่างยิ่งเป็นความเชื่อที่ผิดว่าจะการสวนล้างช่องคลอดนั้นจะสามารถชำระคราบอสุจิและจะทำให้ไม่ให้เกิดการตั้งครรภ์ได้เพราะเสี่ยงสูงอีกทั้งยังอันตรายต่อการติดเชื้อภายในช่องคลอดอย่างรุนแรงอีกทั้งยังไม่สามารถคุมกำเนิดได้และเสี่ยงต่อการมีเพศสัมพันธ์สูงที่สุด
หลังจากเสร็จกิจกรรมเพศสัมพันธ์ให้ปัสสาวะทันที
เมื่อมีเพศสัมพันธ์เสร็จและให้ปัสสาวะทันทีนั้นเป็นแค่ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อที่จะทำให้เกิดอาการอักเสบในท่อปัสสาวะเพราะว่าโอกาสที่เชื้อในทางเดินปัสสาวะหลังมีเพศสัมพันธ์จะมีสูงดังนั้นการที่ขับปัสสาวะออกมาทันทีก็จะช่วยลดความเสี่ยงในการติดเชื้อในท่อทางเดินปัสสาวะได้ในทั้งสอฃฝ่ายแต่ไม่ได้ช่วยในการคุมกำเนิดแต่อย่างใดการที่หลายๆคนเข้าใจดังนั้นจึงเป็นความเชื่อที่ผิดว่า หลังมีเพศสัมพันธ์ให้ฝ่ายหญิง ปัสสาวะทันทีจะสามารถคุมกำเนิดได้ในฝ่ายหญิง
ใช้วิธีนับวันก่อนหลัง 7 วัน ที่เรียกว่าหน้า 7 หลัง 7
ซึ่งวิธีนี้มีศัพท์ทางการแพทย์เรียกว่าFertility Awareness Method นั้นก็คือต้องรู้ว่าฝ่ายหญิง สุขภาพดี มีประจำเดือนวันไหนอย่างแน่นอนและให้นับไปก่อนวันที่มีประจำเดือน 7 วันและหลังมีประจําเดือน 7 วันนับว่าเป็นช่วงเวลาที่อาจจะทำให้ตั้งครรภ์ได้ยาก แม้ว่าจะเป็นวิธีที่คุมกำเนิดที่มีวิธีการมากกว่าวิธีอื่นที่กล่าวมาข้างต้น “แคะขี้หู” จำเป็นหรือไม่? แล้วมันมีอันตรายอะไรกับเราหรือไม่? แต่ก็มีความเสี่ยงในการตั้งครรภ์สูงสุดเช่นกันเพราะ วิธีนี้เหมาะสำหรับคู่สามีภรรยาที่มีสุขภาพแข็งแรงและรู้ว่าประจำเดือนมาวันไหนจะสม่ำเสมอไม่มีความคลาดเคลื่อนและต้องให้รู้แน่นอนว่าเลือดที่ออกมาจากช่องคลอดนั้นเป็นประจำเดือนจริงๆไม่ใช่แผลไม่ใช่เลือดจากแผลภายในช่องคลอดออกมาอย่างผิดปกติ
ซึ่งเป็นวิธีที่ควรใช้ในคู่สามีภรรยาที่มีเพศสัมพันธ์เท่านั้นเพราะว่าไม่จำเป็นจะต้องใช้อุปกรณ์คุมกำเนิดอย่างถุงยางหรือยาคุมแต่ก็มีความเสี่ยงสูงในการตั้งครรภ์เช่นการจึงไม่จำเป็นจึงไม่ควรใช้ในหมู่วัยรุ่นที่ไม่พร้อมในการตั้งครรภ์เพราะว่ามีโอกาสพลาดขึ้นมาได้อีกทางวิธีนี้ยังไม่การันตีได้ถึงการลดความเสี่ยงในการติดโรคทางเพศสัมพันธ์ประเภทอื่นๆไม่ว่าจะเป็นโรคซิฟิลิสการติดเชื้อ HIV ซึ่งเป็นโรคที่ร้ายแรง
การมีเพศสัมพันธ์ไม่ใช่เรื่องผิดถ้ารู้จักเรียนรู้การวิธีคุมกำเนิดอย่างถูกวิธีซึ่งวิธีการคุมกำเนิดมีอยู่หลายวิธีเช่นการใช้ถุงยางอนามัย การกินยาคุมกำเนิด ตลอดจนการคุมกําเนิดแบบชั่วคราวเช่นการใส่ห่วงอนามัยคุมกำเนิด แต่วิธีการคุมกำเนิดที่จะลดอัตราการเสี่ยงจากโรคทางเพศสัมพันธ์ได้ นั่นก็คือ joker777 การใช้ถุงยางอนามัยดังนั้นถ้าจะต้องเสี่ยงมีเพศสัมพันธ์ก็ควรใช้ถุงยางอนามัยที่ป้องกันการท้องและวิธีป้องกันจากโรคทางเพศสัมพันธ์ได้จึงไม่ควรมองข้ามการใช้ถุงยางอนามัย
