แนะนำวิธีการกิน ทุเรียน ที่ปลอดภัยต่อสุขภาพ ไม่ทำให้กลายเป็นโรคอ้วน
Posted On Posted By Narong Santisakul
เมื่อเข้าสู่หน้าร้อน ช่วงเดือนต้นเดือนพฤษภาคม หลายคนเฝ้ารอคอยที่จะได้กินผลไม้ ทุเรียน มันเป็นผลไม้ที่อร่อยอย่างมาก ต้องรอหลายเดือนกว่าจะได้กิน แต่ภายในผลไม้ทุเรียนนี้ สุขภาพดี ถ้าเรากินในจำนวนที่มากจนเกินไป มันจะส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย ทำให้เป็นโรคอ้วน และโรคความดันได้ วันนี้เราเลยจะมาแนะนำวิธีการกินทุเรียน ที่ไม่ทำลายสุขภาพ แถมยังไม่ต้องกลัวว่าจะอ้วนอีกด้วย ว่าแต่จะมีวิธีการกินอย่างไร เราไปดูกันเลย
7 วิธีการกิน ทุเรียน ให้ไม่อ้วน และไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกาย
- ให้เรากินทุเรียนในปริมาณที่ไม่มากจนเกินไป จำนวนที่พอเหมาะ ที่ทางการแพทย์ได้แนะนำ ในหนึ่งวันไม่ควรกินเกิน 2 พูล และหนึ่งสัปดาห์ไม่ควรกินติดต่อกัน 3 วัน และเนื้อของทุเรียนที่จะไม่ทำให้อ้วน ควรเป็นเนื้อที่ไม่สุกมากจนเกินไป เพราะเนื้อที่ยิ่งสุกจะมีน้ำตาลในปริมาณที่สูง
- ไม่ควรกินทุเรียนในช่วงมื้อหลัก แนะนำกินให้เป็นมื้อว่างจะดีกว่า
- สำหรับใครที่รู้ตัวว่ามีโรคประจำตัว เช่น โรคเบาหวาน ความดัน และหัวใจ สามารถกินทุเรียนได้ แต่อย่ากินมากจนเกินไป
- เมื่อกินทุเรียนแล้ว ต้องรู้จักการออกกำลังกาย ไม่จำเป็นต้องวิ่งแค่เดินประมาณ 30 นาที ก็ได้แล้ว
- ควรกินผลไม้ที่มีฤทธิ์เย็น อย่างเช่น มังคุด หรือแตงโม เพราะผลไม้ทั้งสองชนิดนี้ จะไปช่วยลดความร้อนของทุเรียนได้ การที่เรารับประทานทุเรียนในปริมาณที่เยอะ จะส่งผลต่อระบบภายในของร่างกาย อาจจะทำให้เกิดแผลในปาก ร้อนใน และป่วยเป็นไข้ได้ทันที
- ห้ามกินทุเรียนคู่กับน้ำอัดลม หรือกาแฟโดยเด็ดขาด เพราะจะไปกระตุ้นทำให้เรามีโอกาสเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้
- เมื่อกินทุเรียนเสร็จแล้ว ให้ดื่มน้ำเปล่าตามไปในปริมาณที่มาก เพื่อที่จะลดฤทธิ์ร้อนของทุเรียน
นี้คือ 7 วิธีการกินทุเรียน ไม่ส่งผลเสียต่อสุขภาพ และยังห่างไกลโรคอ้วนได้อีกด้วย หลายคนอาจจะไม่รู้ว่า ทุเรียน 1 พูนั้น มีค่าพลังงานที่สูงมากถึง 300 กิโลแคลอรี ถ้าเรากินมากกว่า 1 พู ก็คิดดูแล้วกันว่าจะได้รับพลังงานไปกี่กิโลแคลอรี
- “กินเจเพื่อสุขภาพ” สายสุขภาพต้องรู้ ทำอย่างไรให้สารอาหารครบ
- “ภาวะไขมันในเส้นเลือด” โรคร้าย สุดอันตราย สาเหตุคืออะไร ?
- เบาหวาน อาการหนัก ภัยร้ายใกล้ตัว ไม่ควรพลาด 2566 อ่านได้ ที่นี่
- ออฟฟิศ ซินโดรม โรคยอดฮิตของคนออฟฟิศ เริ่มมีอาการปวดหลัง
- มะเร็งเต้านม สัญญาณเตือนอันตราย ภัยใกล้ตัว โรคสำหรับผู้หญิงควรรู้
