ข่าวสุขภาพอื่นๆ

ทำความรู้จักกับอาการ “สมองเสื่อม”กับ “ขี้หลงขี้ลืม” แตกต่างกันอย่างไร

Posted On
Posted By Biim

เชื่อว่าเพื่อน ๆ หลายคนคงเคยมีอาการหลงลืมสิ่งต่าง ๆ รอบตัว ไม่ว่าจะเป็นการวางของแล้วลืมที่ที่วางไว้ หรือการพูด ๆ อยู่แล้วลืมสิ่งที่จะพูดเสียอย่างงั้น อาการเหล่านี้เป็นสัญญาณบอกโรคความจำเสื่อมหรือเปล่านะ โดยบทความนี้ทางทีมงานได้รวบรวมข้อมูลถึงความแตกต่างระหว่างอาการ สมองเสื่อม และอาการขี้หลงขี้ลืม ที่จะช่วยให้เราสามารถแยกแยะอาการเหล่านี้ได้อย่างง่ายดาย และยังช่วยให้เรารู้เท่าทัน พร้อมการบำรุงสุขภาพสมองอย่างถูกวิธีอีกด้วย

“สมองเสื่อม”กับ “ขี้หลงขี้ลืม” แตกต่างกันอย่างไร

อาการขี้หลงขี้ลืม ถือว่าเป็นอาการที่พบได้บ่อยสำหรับบุคคลทั่วไป และไม่ได้มีอายุเกิน 60 ปีขึ้นไป โดยส่วนใหญ่อาการขี้หลงขี้ลืม จะมีลักษณะการลืมสิ่งของต่าง ๆ หรือลืมสิ่งที่ต้องทำ เมื่ออยู่ในขณะที่ต้องทำสิ่งต่าง ๆ หลาย ๆ อย่างพร้อมกัน ซึ่งเมื่อระยะเวลาผ่านไป จะสามารถนึกขึ้นมาได้ หรือสามารถจำสิ่งที่ลืมไปชั่วขณะได้ด้วยตนเอง รวมไปถึงการจดโน๊ต เพื่อเตือนความจำต่าง ๆ ที่เมื่อได้มาอ่านอีกครั้ง ก็จะสามารถจำได้เฉกเช่นดังเดิมนั่นเอง และทั้งหมดนี่เป็นเพียงอาการขี้หลงขี้ลืมเท่านั้น แต่หากอาการที่บ่งชี้ว่าสุขภาพทางสมองเสื่อมประสิทธิภาพแล้วล่ะก็ จะมีอาการดังต่อไปนี้

อาการโรคสมองเสื่อม ถือว่าเป็นอาการที่ผิดปกติของสุขภาพทางสมอง ของผู้ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป ซึ่งลักษณะการลืมสิ่งต่าง ๆ ที่ไม่สามารถจดจำขึ้นมาได้อีกครั้งนั่นเอง และเป็นอาการลืมในหลาย ๆ บริบท อย่างการลืมเหตุการณ์สำคัญ ๆ หรือลืมสิ่งที่ได้พูดไปก่อนหน้านี้ โดยไม่สามารถรื้อฟื้นความจำนั้นมาได้อีกครั้ง

นอกจากนี้ยังมีการลืมทำสิ่งต่าง ๆ ที่เป็นเรื่องปกติในชีวิตประจำวันอย่าง การลืมอาบน้ำ ก่อนออกจากบ้าน เพราะจำไม่ได้ว่าการอาบน้ำคืออะไร หรืออย่างการวางสิ่งของผิดที่อย่างไม่เหมาะสม เช่น การวางเสื้อผ้าไว้ในตู้เย็น ซึ่งนี่เป็นเพียงสัญญาณเริ่มต้นของอาการโรคความจำเสื่อมเท่านั้น

สมองเสื่อม

ซึ่งใครที่กังวลเกี่ยวกับสุขภาพของสมองจนเองนั้น เราสามารถบำรุงสมองให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หรือมีสุขภาพของสมองที่ดีได้ โดยการทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสมอง ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันปลา หรือไขมันดีต่าง ๆ รวมไปถึงการฝึกใช้สมองให้เกิดการกระตุ้นอยู่เสมออย่าง การเล่นเกมสมองต่าง ๆ การคิดคำนวณเลขบ่อย ๆ การอ่าหนังสือ อีกทั้งการออกกำลังกายก็สามารถช่วยฟื้นฟูสมองให้แข็งแรงนั่นเอง

ถ้าหากคุณอยากสุขภาพดี อย่าลืมติดตามข้อมูลเกี่ยวกับข่าวสุขภาพอื่นๆได้อีก เช่น เริ่มต้นวันด้วย “อาหารเช้า” ก็สุขภาพดีพร้อมออกไปเจอทุกๆเรื่องแล้ว

Related Post