หน้ามืด ตาลายบ่อยๆ มันมีสาเหตุมาจากอะไร และสามารถรักษาได้อย่างไร
หลายคนคงเคยเป็นกับอาการ หน้ามืด บ่อยๆ เวลานั่งหน้าคอมนานๆ หรือเวลาที่ต้องลุกเดินแบบกะทันหัน หรือบางคนอาจร้ายแรงจนถึงขั้นเป็นลมไปเลยก็ได้ สัญญาณเหล่านี้ เกิดจากการที่เลือดนั้นไปเลี้ยงสมองของเราไม่เพียงพอนั่นเอง โดยสัญญาณเหล่านี้สามารถสังเกตได้ง่ายๆด้วยอิริยาบถต่างๆในการขยับร่างกายของเรานั่นเอง วันนี้เราจะมาสังเกตสัญญาณของอาการหน้ามืดต่างๆเหล่านี้ไปพร้อมๆกันครับ
สาเหตและการรักษาอาการ หน้ามืด
1. หน้ามืดเมื่อต้องเปลี่ยนท่าทางแบบกะทันหัน เช่นเมื่อต้องลุกออกจากเก้าอี้ อาการหน้ามืดจากการเปลี่ยนท่านั้น เป็นกันได้หลายคนเอามากๆ โดยการหน้ามือเมื่อเปลี่ยนท่านั้น มักเกินขึ้นกับบุคคลสูงอายุ เพราะคนสูงอายุนั้น จะมีร่างกายที่อ่อนแอ เมื่อนั่นหรือนอนนานๆ เลือดจะตกไปกองอยู่ที่ขา ทำให้เวลาที่ลุกกะทันหันร่างกายนั้นปรับสภาพไม่ทันนั่นเอง หรืออีกสาเหตุหนึ่ง คือรับประทานยาที่ทำให้ความดันเลือดลดลง ก็จะส่งผลให้เวลาลุกยืนแล้วหน้ามืดได้ง่ายขึ้นเช่นกัน
2. หน้ามืดจากร่างกายอ่อนแอ สำหรับการหน้ามือจากร่างกายอ่อนแอนั้น ถือเป็นเรื่องปกติและเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย เช่นการ อ่อนเพียรเหนื่อยล้าจากการทำกิจกรรมต่างๆ หรือการที่ร่างกายพึ่งหายป่วยไข้ อาการหิว อากาศร้อน การอดหลับอดนอน เป็นต้น โดยอาการหน้ามือจากร่างกายอ่อนแอ นั้นมีทั้งหมด 2 ระยะ ระยะแรกคนไข้จะหงุดหงิด กระสับกระส่าย เมื่อมีอาการระยะแรก คนไข้ควรนั่งพักในที่ร่ม ดมยาดม หรือดื่มน้ำ เพื่อให้ร่างกายได้หยุดพักสักครู่ แต่หากคนไข้ไม่พักเลย จะเกิดเป็นระยะที่ 2 ได้ คือ รู้สึกตัวเบา คลื่นไส้ ท้องไส้ปั่นป่วน สายตาพร่ามัว และเป็นลมหมดสติไปได้ในที่สุด หรืออาจจะร้ายแรงไปขนถึงสมองขาดเลือดได้เช่นกัน
ดังนั้นการป้องกันอาการหน้ามืด ตาลายบ่อยๆนั้น ควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 5 หมู่ ขยันออกกำลังกาย พักผ่อนให้เพียงพอ และที่สำคัญ หมั่นสังเกตตัวเองให้ดีๆ และรู้ขีดกำจัดของร่างกายด้วยเช่นกัน เมื่อมีอาการหน้ามืดบ่อยๆ ควรไปปรึกษาแพทย์เฉพาะทาง เพื่อรู้สาเหตุ และวิธีการบำบัดรักษาอย่างถูกวิธีกันด้วยนะครับ
ถ้าหากคุณอยากสุขภาพดี อย่าลืมติดตามภาวะซึมเศร้า ส่งผลต่อสุขภาพทางกายมากกว่าที่ทุกคนคิด ได้อีกที่ worldcongressacg2017.org